ชาวลาวต้องการยกระดับการปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติเพราะเห็นว่าทุกพรรคในพรรค-รัฐบาลมีการทุจริตกันมาก
จ้าหน้าที่ในคณะกรรมการตรวจสอบแห่งรัฐเปิดเผยว่าการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นในทุกระดับในพรรคและรัฐบาลลาวโดยเฉพาะโครงการพัฒนาที่รัฐบาลได้ลงทุนไป เนื่องจากการดำเนินการตามโครงการไม่ประสบผลสำเร็จตามแผนที่วางไว้แต่ใช้งบประมาณไปแล้ว 2,295 โครงการ ตรวจสอบได้เพียง 499 โครงการ จึงยังมีโครงการที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอีก 1,796 โครงการ เนื่องจากขาด ความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการที่เกิดการทุจริต แม้ว่าหน่วยงานจะรับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่ก็ยังมีอำนาจจำกัดในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรผู้ที่กระทำการทุจริตทำให้ไม่กลัวการทุจริต ดังนั้นชาวลาวจึงต้องการยกระดับการป้องกันการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ เช่น การแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจและการปราบปรามการค้ายาเสพติด ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการตรวจสอบแห่งรัฐยืนยันว่า:
“ผมขอยืนยันว่าเราจะต้องจัดการกับการทุจริตและยกให้เป็นวาระแห่งชาติ นี่ถ้าทำได้ดีเพราะเราจะต้องหยุดมันให้หมดถ้าแก้ไขไม่ได้ก็จะเป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่เป็นแบบอย่างให้น้อง จึงไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ขาด ไม่สิ้นสุด ไม่สิ้นสุด เรื่องนี้ฉันขอยืนยันที่จะแก้ไขสิ่งนี้”
นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาบุคลากรขาดความรู้และทักษะ มีอีกเหตุผลหนึ่ง เนื่องจากการคัดเลือกบุคลากรไม่ได้มาตรฐานเนื่องจากฝ่ายที่สนับสนุนผู้ที่เป็นญาติและเน้นผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ยังไม่มีการลงโทษขั้นเด็ดขาดสำหรับนักแสดงที่ไม่ซื่อสัตย์ และเป็นการยากที่จะถอดถอนพวกเขาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีญาติที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา เช่น การไม่ร่วมมือในการตรวจสอบโครงการที่ต้องสงสัยว่าทุจริตยังทำให้ประเทศที่ให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลลาวต้องทบทวนแผนการให้ความช่วยเหลือแก่ ประเทศลาวด้วย เนื่องจากพบว่าเงินช่วยเหลือถูกใช้ไปอย่างไม่โปร่งใส รวมถึงการขโมยรายได้รัฐบาลจากสัมปทานและค่าธรรมเนียมจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยสมาชิกสภาแห่งชาติลาวให้การเป็นพยานว่า “เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดบ่อแก้วใช้ไป 306,000
ล้าน กีบจากยอดที่เรียกเก็บจากคาสิโน ภาษี ค่าธรรมเนียม และบริการอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2552 ถึง 2566 9 พันล้านกีบ หักเพื่อทดแทนโครงการ นอกจากแผนการลงทุนของรัฐบาลแล้ว ยังมี 2 โครงการ คือ การก่อสร้างถนนคอนกรีตตั้งแต่น้ำเค็งถึง แม่กับโครงการสร้างตะโพน
เกิดขึ้นในพื้นที่ดอนเส้าส่งผลให้การใช้เงินไม่ผ่านระบบคลังของประเทศและไม่รวมอยู่ในแผนงบประมาณของรัฐ
ในปี 2565 ถึง 2566 พบการคอร์รัปชันเนื่องจากความร่วมมือระหว่างสมาชิกพรรคกับบุคคลภายนอก 749 ราย สร้างความเสียหายเป็นมูลค่า 746 พันล้านกีบ ด้วยเงินกว่า 362 ล้านบาท และ 14 ล้านดอลลาร์ แต่สามารถกู้คืนได้ 391 พันล้านกีบ มากกว่า 25 ล้านบาทขึ้นไป มากกว่า 10,000 ดอลลาร์ จากการตรวจสอบเป้าหมาย 4,185 เป้าหมายระหว่างปี 2559 ถึง 2565 ยังพบว่าการทุจริตส่งผลให้รัฐบาลลาวสูญเสียเงินกว่า 8,370 พันล้านกีบ เป็นเงิน 50.22 ล้านดอลลาร์ และ 36.89 ล้านบาท โดยมีสมาชิกพรรค 3,690 คนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว