ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารแห่ง สปป. ลาว และผู้ที่เกี่ยวข้องได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหากีบอ่อนอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนให้ผู้ปกครองเปลี่ยนมาใช้สินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศเพื่อลดการนำเข้าสินค้าที่มี เพื่อชำระเป็นเงินตราต่างประเทศแต่ยังดำเนินการไม่ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านการจัดการนำเข้า-ส่งออกของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวกับ Asia Free Radio เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ว่า
” ธนาคารกลางใช้สินค้า เขาไม่อนุญาตให้ใช้ ใช้เฉพาะกีบเท่านั้น เพราะไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงิน อัตราเงินเฟ้อนี้เน้นไปที่การผลิตในประเทศและลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งไม่จำเป็น–
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลการค้าแห่ง สปป. ลาว (Lao PDR Trade Portal) ระบุว่า ในช่วง 5 เดือนแรก (มกราคม-พฤษภาคม) ปี 2567 ลาวมีการขาดดุลการค้ามูลค่า 658 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากการนำเข้า ของน้ำมันเชื้อเพลิงและวัสดุสิ้นเปลืองในชีวิตประจำวันและในปริมาณมาก ท่ามกลางสถานการณ์ค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลงบ่อยครั้ง
ในขณะที่ชาวลาวจำนวนมากตามเมืองและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ยังคงนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศไทย ได้แก่ จีน และเวียดนาม ส่วนหนึ่งเนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและมีคุณภาพสูงกว่าผลิตภัณฑ์ของลาวที่ผลิตในประเทศ เช่น ชาวเวียงจันทน์ที่ทำงานเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทย บุคคลหนึ่งบอกกับ Radio Asia Free ในวันเดียวกันว่า:
“ จริงๆ บ้านเรามีสินค้ามากมายแต่คนลาวไม่นิยม ส่วนใหญ่ผลิต ส่งออก ขายเยอะเมื่อก่อน แต่ตอนนี้คนลาวนิยมในประเทศนี้ ก็เหมือนราคาคนไทย สินค้าสูงมากคนลาวส่วนใหญ่ไม่อยู่ในทุกเทศกาล ไม่ว่าคนลาวต้องการอะไรฉันก็จะไปเที่ยวเมืองไทยฉันจะข้ามไปมี สินค้ามากมายให้เลือกที่ประเทศลาว ดูเหมือนว่าจะมีราคาแพง–
ในประเด็นนี้เมื่ออัตรากีบลดลงบ่อยครั้งจนแตะ 750 กีบ/บาท ส่งผลให้ผู้ค้านำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยและประเทศเพื่อนบ้านหลายรายมาขายในประเทศลาวด้วยเงินตราต่างประเทศ ราคาสินค้าหน้าร้านทุกวันตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างผันผวนทำให้มีความเสี่ยงในการระดมทุน
“ ปีนี้( 2024) หนักมาก ขายไม่ได้ ไม่ชอบเศรษฐกิจในบ้าน ขึ้นทุกวัน ไม่เหมือนเดิมทุกวัน ขึ้นวันนี้ จะเปลี่ยน เงิน บาทจะขึ้นอีกยังยากเลย–
ตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารภายใต้การบริหารของรัฐในประเทศลาว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ระบุว่า ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท แลกได้ 695.39 กีบ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แลกได้ 22,226 กีบ และ 1 หยวนสามารถแลกได้ 3,658 กีบ ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดต่างประเทศ
เนื่องจากปัญหากีบยังคงเพิ่มมากขึ้นและไม่มีแนวโน้มลดลง รัฐบาลลาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการร้านขายของชำและร้านอาหารตามเมืองและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้ออกมาประท้วงและสนับสนุนว่าการซื้อและขาย ของสินค้าภายในประเทศลาวจะต้องชำระเป็นเงินกีบ นอกจากนี้ พวกเขากำลังส่งเสริมเงินตราต่างประเทศที่ไหลอยู่ในมือของประชาชนทั่วไปเพื่อไปบริหารธนาคารในการบริหารของรัฐตามที่เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังกล่าวไว้ว่า
“ เอมครับ มันเป็นเงินตราต่างประเทศในประเทศครับ ตอบตรงไม่พอ แต่เงินเป็นแค่ เงินตราต่างประเทศ ถ้าใช้เองก็เยอะครับ แต่เงินไม่เข้าธนาคาร จะทำให้ ปัญหาในระบบการเงินเพราะอยากได้เงินกลับเข้าธนาคารเพื่อให้การจราจรดีขึ้นเพราะตอนนี้มันประมาทเกินไปมีบางอย่างออกมาแต่ฉันไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น นี้. –
ตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2560 มาตรา 285 ระบุว่าการโฆษณาเพื่อซื้อและขายสินค้า การรับชำระเงิน การรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การเปิดบัญชีในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือนำเงินสดเป็นเงินตราต่างประเทศเข้าและออกประเทศลาวส่วนเกิน ของมูลค่าที่ทางการลาวกำหนดจะถูกลงโทษจำคุก 6 เดือนถึง 2 ปี และปรับ 3 ล้านถึง 10 ล้านกีบ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2567 นักธุรกิจจำนวนหนึ่งในเมืองปากเซ จังหวัดจำปาสัก ได้หยุดซื้อขายสินค้าด้วยเงินตราต่างประเทศโดยเผยแพร่ข้อความ “ในลาว ใช้แต่กีบ” บนโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็นกระแสให้ร้านค้าต่างๆ ในเมืองและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศลาว นอกจากนี้หากใครยังต้องการใช้เงินตราต่างประเทศก็ซื้อ-ขายด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 250-450 กีบ/บาท ในขณะที่ธนาคารของรัฐมีอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันอยู่ที่ 720-730 กีบ/บาท
แม้ว่าคนลาวหลายๆ คนจะตระหนักดีว่าคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบได้ แต่สาเหตุที่ผมทำต่อเพราะไม่มีทางออกอื่นและวิธีแก้ปัญหาเงินเฟ้อของรัฐบาลลาวนั้นล่าช้าและไม่สามารถดำเนินการได้ . เช่น การป้องกันการแลกเปลี่ยนเงินตรานอกระบบธนาคารภายใต้การบริหารของรัฐ ในฐานะชาวเมืองปากเซ จังหวัดจำปาสัก กล่าวว่า
“ อ๋อ ก็ประมาณนั้นเพราะเราไม่สามารถสนับสนุนรัฐบาลได้ เราต้องพึ่งตัวเองในการแก้ไข แต่ก็ค่อนข้างช้า ยังไงซะเราก็ปิดร้านแลกเงินอยู่แล้ว ไปแลกกับธนาคารก็ได้ แต่เราห้ามไม่ได้” มัน คนฉลาด เราไม่ใช่ร้านแลกเปลี่ยน เราไม่ได้บอกว่าร้านแลกเปลี่ยนถูกขโมย ถูกปรับหรือจะบันทึกบัญชี พวกเขาขโมยและแลกเปลี่ยนกัน–
เขากล่าวเสริมว่าแม้แต่ร้านขายของชำและร้านอาหารทั่วไปก็ยังช่วยกันใช้แต่กีบ แต่ยังมีผู้ประกอบการในลาวจำนวนมากที่จำเป็นต้องใช้เงินตราต่างประเทศในการซื้อและขายสินค้าเพื่อรักษามูลค่าของเงินและอำนวยความสะดวกในการโอนเงิน เงิน เช่น การซื้อและขายอุปกรณ์ก่อสร้างซึ่งมักใช้เงินบาท และการขายที่ดินซึ่งมักใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ในอดีตรัฐบาลลาวและฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีวิธีส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามาทำงานในประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แต่ เนื่องจากค่าเงินกีบยังคงอ่อนแอบวกกับค่าแรงที่ต่ำ ทำให้หลายๆ คนอยากไปทำงานที่ ประเทศไทยจะเก็บเงินบาทซึ่งมีค่ามากกว่ากีบ ในฐานะผู้อาศัยอยู่ในเวียงจันทน์ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทย เขากล่าวเสริมว่า:
“ ถ้าเงินเป็นสกุลเงินไทยก็จะลดลง ถ้าเงินบาทขึ้น เราก็ต้องไปทำงานที่ไทย เลยกลับบ้านมาแลกเงินไทยที่นี่ เพราะเยอะ เงินเดือนขั้นต่ำ” นี่ราคาตั้งแต่ 1,500,000 – 1,600,000 ครับจะทำให้คนลาวเข้ามาทำงานที่ไทยเพราะง่ายต่อการติดต่อสื่อสารกัน–
จากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของประเทศลาวโดยศูนย์สถิติแห่งชาติ พบว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วง5 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างปี 2562-2566) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2562 อัตราเงินเฟ้อในประเทศลาวอยู่ที่ 3.32% ในปี 2563 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 5.07% และในปี 2564 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.75% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 22.96 % และในปี 2566 อัตรา เงินเฟ้ออยู่ที่ 31.23 %
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี2567 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 25.13 %
1 Comment